เบียร์

เบียร์ (Beer) คืออะไร

เบียร์ (Beer) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สร้างขึ้นจากกระบวนการหมักของพืช (ธรรมชาติหรือเพาะเชื้อ) และเมล็ดข้าวสาลีหรือธัญพืชอื่น ๆ โดยมักใช้เมล็ดข้าวสาลีของ ข้าวบาร์เลย์ น้ำตาล และส่วนผสมอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบหลักของเบียร์ ซึ่งกระบวนการหมักจะทำให้น้ำนมพืชเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ และคาร์บอนไดออกไซด์ โดยจะมีสายพันธุ์และวิธีการผลิตต่าง ๆ ทำให้เกิดรสชาติและลักษณะทางกลิ่นที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อและประเทศที่ผลิตเบียร์นั้น ๆ การดื่มเบียร์เป็นสัญญาณประจำวัฒนธรรมและมีประวัติความเป็นมามากนับพันปีในส่วนมากของโลก

ประวัติศาสตร์ของเบียร์

ต้นกำเนิดเบียร์ ได้เริ่มต้นตั้งแต่ยุคที่มีการเพาะปลูกและปรุงอาหารเกิดขึ้นในโลก สืบความย้อนต้นกำเนิดกลับไปถึง 9500 ปีก่อนคริสตกาล โดย เบียร์ คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกๆ ของโลก ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคอารยธรรมสุเมเรียน โดยวันนี้เราจะพูดถึงประวัติศาสตร์เบียร์ในยุคใหม่ เบียร์ ได้เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศเยอรมนีในช่วยครึ่งหลังของศตวรรษที่ 15 ชาวเยอรมันผู้คิดค้นเบียร์ขึ้นในแคว้นบาวาเรีย โดยเบียร์ของเยอรมันทำจากมอลต์เรียก Peor หรือ Bior ที่เพี้ยนจนมาเป็นคำว่า Beer ในปัจจุบัน

เบียร์ทำมาจากอะไร

  1. น้ำ (Water) เป็นส่วนประกอบสำคัญประมาณ 90 % ขึ้นไป ในน้ำมีเกลือแร่ต่างๆด้วยจึงทำให้รสชาติเบียร์แตกต่างกันออกไป
  2. ฮ็อพ (Hops) เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งใช้เพื่อรักษาความสมดุลหรือเพิ่มรสชาติของเบียร์ ฮ็อพทำให้เบียร์มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
  3. มอลต์ (Malt) ข้าวบาร์เลย์ เมล็ดธัญพีช ใช้ในการหมักเบียร์ โดยแต่ละผู้ผลิตอาจจะใช้มอลต์ที่ต่างกันก็ส่งผลให้รสชาติ สีต่างกันด้วย อีกทั้งยังทำให้เกิดน้ำตาลเพื่อให้ยีสต์กินอีกด้วย
  4. ยีสต์ (Yeast) – จุลินทรีย์ที่กินน้ำตาลที่พบในข้าวบาร์เลย์ และแปลงเป็นแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ (ฟอง)

เบียร์มีกี่ประเภท มีอะไรบ้าง

เบียร์มีกี่ประเภท วันนี้เราจะมาพูดให้ทุกท่านได้ดูกัน เบียร์นั้นมีหลายประเภทและหลายสไตล์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องรสชาติ กลิ่น สี และวิธีการผลิต นี่คือบางประเภทและสไตล์ของเบียร์ที่แต่ละประเทศและคนในโลกนั้นต่างรับรู้กันทั้งหมด

โดยทั่วไปเบียร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เบียร์ตลาดที่มีโลโก้เป็นสัตว์เล็กใหญ่ กับเบียร์ของผู้ผลิตรายเล็กๆที่เรียกว่า “คราฟท์เบียร์” แต่หากจำแนกตามลักษณะของตัวเบียร์เองสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ Ale (เอล), Lager (ลาเกอร์) และ Lambic (ลัมบิค) ซึ่งเป็นการแบ่งตามการใช้ยีสต์และอุณหภูมิในการหมัก

ale-beer

เบียร์เอล (Ale Beer)

เบียร์เอล เป็นเบียร์ที่ใช้ยีสต์ประเภทหมักลอยผิวและหมักที่อุณหภูมิ 15-24 องศาเซลเซียส ทำให้ได้เบียร์ที่มีรสเข้ม แอลกอฮอล์สูงกว่าเบียร์ชนิดอื่น มีสีหลากหลาย กลิ่นของฮ็อปส์ ผลไม้และเครื่องเทศชัดเจน และยังแยกออกเป็นอีกหลากหลายชนิดตามกระบวนการผลิตและวัตถุดิบที่ใช้

●WHEAT BEER (วีทเบียร์) เป็น Ale Beer ที่ดื่มง่าย สีเหลืองสว่าง ให้ความรู้สึกสดชื่นแต่ก็ยังมีรสสัมผัสของมอลต์ชัดเจน
●PALE ALE (เพลเอล) มีสีเหลืองสว่าง ให้กลิ่นหอมและรสชาติของฮอปส์ชัดเจน
●INDIA PALE ALE (อินเดียเพลเอล) หรือ IPA มีสีออกส้มแดง ให้รสชาติที่เข้มข้น ขมติดปลายลิ้น แอลกอฮอล์สูง รสชาติของฮอปส์โดดเด่นและมีกลิ่นผลไม้
●AMBER ALE (อัมเบอร์เอล) มีสีน้ำตาล รสชาติออกหวานจากการใส่มอลต์ในปริมาณที่มากกว่าชนิดอื่น
●PORTER (พอร์เตอร์) สีออกน้ำตาลเข้ม รสชาติหวานกว่า Ale ตัวอื่นๆและมีฟองมากกว่า
●STOUT (สเตาท์) มีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีดำ บางครั้งถูกเรียกว่า “เบียร์ดำ” เพราะหมักจากข้าวบาร์เลย์ที่อบจนเกือบไหม้ร่วมกับมอลต์ รสชาติจะนุ่มลึก บอดี้เข้ม มีกลิ่นคล้ายโกโก้และกาแฟ

เบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer)

เบียร์ลาเกอร์ เป็นเบียร์ที่ใช้ยีสต์ประเภทนอนก้น หมักที่อุณหภูมิ 5-15 องศาเซลเซียส และใช้เวลาหมักนานกว่า Ale Beer มีรสชาติที่ไม่ซับซ้อน เนื้อสีทองใส ให้ความรู้สึกสดชื่น พบเห็นได้ทั่วไปในเบียร์ตลาดรายใหญ่ๆและยังมีประเภทย่อยๆอีก เช่น

●WHEAT BEER (วีทเบียร์) เป็น Ale Beer ที่ดื่มง่าย สีเหลืองสว่าง ให้ความรู้สึกสดชื่นแต่ก็ยังมีรสสัมผัสของมอลต์ชัดเจน
●PALE ALE (เพลเอล) มีสีเหลืองสว่าง ให้กลิ่นหอมและรสชาติของฮอปส์ชัดเจน
●INDIA PALE ALE (อินเดียเพลเอล) หรือ IPA มีสีออกส้มแดง ให้รสชาติที่เข้มข้น ขมติดปลายลิ้น แอลกอฮอล์สูง รสชาติของฮอปส์โดดเด่นและมีกลิ่นผลไม้
●AMBER ALE (อัมเบอร์เอล) มีสีน้ำตาล รสชาติออกหวานจากการใส่มอลต์ในปริมาณที่มากกว่าชนิดอื่น
●PORTER (พอร์เตอร์) สีออกน้ำตาลเข้ม รสชาติหวานกว่า Ale ตัวอื่นๆและมีฟองมากกว่า
●STOUT (สเตาท์) มีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีดำ บางครั้งถูกเรียกว่า “เบียร์ดำ” เพราะหมักจากข้าวบาร์เลย์ที่อบจนเกือบไหม้ร่วมกับมอลต์ รสชาติจะนุ่มลึก บอดี้เข้ม มีกลิ่นคล้ายโกโก้และกาแฟ

เบียร์ลัมบิค (Lambic Beer)

เป็นเบียร์ที่ใช้ยีสต์ชนิดพิเศษ หมักตามกรรมวิธีดั้งเดิมของประเทศเบลเยียม และใช้เวลาหมักในถังไม้ยาวนาน อาจจะมีการใส่ผลไม้เข้าไปจึงมีอีกชื่อหนึ่งคือ “Fruit Beer” รสชาติโดยส่วนใหญ่จะเปรี้ยว สดชื่นและมีความเป็นเอกลักษณ์สูงตามชนิดวัตถุดิบ

ประโยชน์ของเบียร์

ประโยชน์ของเบียร์ เบียร์นั้นเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ในหลายด้านของชีวิตประจำวัน นอกจากความเพลิดเพลินในการดื่มแล้วยังมีผลประโยชน์ต่อสุขภาพและวัฒนธรรมอีกด้วย การบริโภคเบียร์อย่างสม่ำเสมอและเหมาะสมจะส่งผลดีต่อร่างกายเช่น การช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน นอกจากนี้เบียร์ยังมีประโยชน์ทางสังคม ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางวัฒนธรรมในหลายสถานที่ อย่างไรก็ตาม การบริโภคเบียร์ควรเป็นอย่างมีสติ และไม่เกินเกณฑ์ที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์ที่สุดแก่ร่างกายและจิตใจของเรา

สรุป

เบียร์ นั้นถือได้เป็น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเภทแรกๆของโลกเลยก็ว่าได้ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทั่วโลกเนื่องจากดื่มง่าย มีราคาที่ไม่สูงมากหาดื่มได้ทั่วไป ไม่ต้องชงหรือผสมให้ยุ่งยาก และยังมีเอกลักษณ์และรสชาติให้เลือกมากมาย สำหรับใครที่ชื่นชอบในการดื่มเบียร์ถ้าอ่านบทความของเราแล้วก็คงจะทราบแล้วว่าเบียร์นั้นมีหลากหลายประเภทมากๆ สำหรับท่านใดที่อยากเจาะลึกข้อมูลที่เกี่ยวกับเบียร์กดติดตามเว็บของเราไว้เลย เราจะมีข้อมูลดีๆและน่าสนใจเกี่ยวกับเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากมายมาให้ท่านได้อ่านกันตลอดทุกสัปดาห์เลย

อ่านบทความน่าสนใจอื่นๆ : ไวน์