
วอดก้า Vodka
วอดก้า (Vodka) เป็นสุรากลั่นไม่มีสี ใส ไม่มีรสและกลิ่น ไม่มีสีเจือปน มีปริมาณแอลกอฮอล์ 35-70% โดยปริมาตร วอดก้าผลิตจากส่วนผสมหมักอย่างกากน้ำตาลของมันฝรั่ง ธัญพืช (โดยมากเป็นข้าวไรย์หรือข้าวสาลี) หรือหัวบีท และส่วนผสมจำนวนน้อยมาก ๆ จำพวกสารแต่งรสหรือสิ่งเจือปนที่หลุดรอดไป คำว่าวอดก้ามีที่มาจากคำภาษาสลาวิกว่า “voda” (woda, вода) ซึ่งหมายถึง “น้ำ”
ต้นกำเนิดวอดก้า มาจากประเทศโปแลนด์ ยูเครน และรัสเซีย เชื่อกันว่าวอดก้ามีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 หรือ 10 โดยชาวสลาฟตะวันออกได้คิดค้นขึ้นเพื่อใช้ในการรักษาโรคและพิธีกรรมทางศาสนา ต่อมาวอดก้าก็ได้รับความนิยมมากขึ้นและแพร่กระจายไปทั่วโลก
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คงไม่พลาดที่จะได้ยินชื่อ “เหล้าวอดก้า” ที่เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการทำและประวัติความเป็นมาของวอดก้า
วิธีการทำวอดก้า
วอดก้า คือ เหล้าที่ทำจากวัตถุดิบหมักอย่างกากน้ำตาลของมันฝรั่ง ธัญพืช (โดยมากเป็นข้าวไรย์หรือข้าวสาลี) หรือหัวบีท ส่วนผสมเหล่านี้จะถูกหมักจนเกิดแอลกอฮอล์ จากนั้นจะถูกกลั่นหลายรอบเพื่อแยกแอลกอฮอล์ออกจากน้ำและสารอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการ วอดก้าบางชนิดอาจมีการกรองเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความใสและนุ่มนวล
ขั้นตอนการทำวอดก้า
- การหมักวอดก้า
วัตถุดิบจะถูกหมักโดยยีสต์ ซึ่งจะเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์และคาร์บอนไดออกไซด์ กระบวนการหมักใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน
- การกลั่นวอดก้า
แอลกอฮอล์ที่เกิดจากการหมักจะถูกกลั่นหลายรอบ เพื่อแยกแอลกอฮอล์ออกจากน้ำและสารอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการ กระบวนการกลั่นโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- การกรองวอดก้า
วอดก้าบางชนิดอาจมีการกรองเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความใสและนุ่มนวล การกรองอาจใช้วัสดุต่าง ๆ เช่น ถ่านกัมมันต์ ดินเหนียว หรือกระดาษกรอง
ตัวอย่างวิธีทำวอดก้า
วอดก้ามันฝรั่ง
- ล้างมันฝรั่งให้สะอาดแล้วลอกเปลือกออก
- หั่นมันฝรั่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วต้มจนสุก
- ปล่อยให้มันฝรั่งเย็นลงแล้วบดให้ละเอียด
- เติมยีสต์ลงในส่วนผสมและปล่อยให้หมักเป็นเวลา 2-3 วัน
- กลั่นส่วนผสมจนได้แอลกอฮอล์บริสุทธิ์
- กรองแอลกอฮอล์ด้วยถ่านกัมมันต์เพื่อเพิ่มความใสและนุ่มนวล
สูตรค็อกเทลที่ผสมวอดก้า
เราจะมาแนะนำ สูตรค็อกเทล วอดก้า ที่เป็นที่นิยมในร้านเหล้าและบาร์ทั่วโลก สูตรวอดก้าง่ายๆ ที่ทุกท่านสามารถเอาไปชงดื่มได้ที่บ้าน
เวอร์จิ้นบลัดดี้แมรี บลัดดี้แมรี (Bloody Mary) คลาสสิกค็อกเทลที่มีส่วนผสมของน้ำมะเขือเทศและวอดก้า เป็นค็อกเทลที่นิยมดื่มเพื่อแก้แฮงก์ และดื่มในช่วงเวลากลางวันมากที่สุด
- น้ำมะเขือเทศแช่เย็นจัด 2 ถ้วย
- วอดก้า 1/4 ถ้วย (ไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสวูสเตอร์ 2-3 ช้อนชา
- ซอสพริกทาบาสโก 2-3 ช้อนชา
- น้ำแข็งก้อนเล็กน้อย
- มะกอกเขียว เลมอน และมะนาวหั่นเสี้ยวสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดพร้อมน้ำแข็งในกระบอกเชก เขย่าให้เข้ากันจนเย็น
- กรองและเทใส่แก้ว ใส่น้ำแข็งก้อน 2-3 ก้อน ตกแต่งด้วยไม้ค็อกเทลที่เสียบด้วยมะกอกเขียว เลมอน และมะนาวหั่นเสี้ยว
โกจิ เบอร์รี่ วอดก้า Goji Berry and Vodka เครื่องดื่มค็อกเทลสไตล์จีนๆ เลือกใช้ส่วนผสมที่หาง่ายในครัวแก้วนี้มีตัวเอกคือ “เก๋ากี้” หรือโกจิเบอร์รี (Goji Berry) เบอร์รีผลเล็กสีแดง มาแช่ในเหล้าวอดก้าเพื่อให้ทั้งสีและรสของเก๋ากี้ซึมออกมา จากนั้นนำมาทำค็อกเทลโดยผสมกับขิงและโป๊ยกั๊ก เป็นการเพิ่มกลิ่นให้โอเรียนทัลมากขึ้น
ส่วนผสม
- เก๋ากี้ 1/4 ถ้วย
- วอดก้า 1/2 ถ้วย
- น้ำอัดลมกลิ่นมะนาว 1/2 ถ้วย
- ขิงหั่นแฉลบบุบ 2 ชิ้น
- โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
- น้ำแข็งก้อนตามชอบ
วิธีทำ
- แช่เก๋ากี้ในเหล้าวอดก้า ใส่ขวดแก้วปิดฝาเก็บไว้ที่มืดและเย็นนาน 1 สัปดาห์
- ผสมวอดก้า 3-4 ช้อนโต๊ะกับน้ำอัดลมกลิ่นมะนาว ใส่เนื้อเก๋ากี้ที่แช่ไว้เล็กน้อย ใส่ขิงและโป๊ยกั๊ก คนให้เข้ากัน
- เทใส่แก้ว ใส่น้ำแข็ง เสิร์ฟ
คำถามที่พบบ่อย FAQ
1.วอดก้าทั่วไปราคาเท่าไหร่ ?
- วอดก้า ราคา เริ่มต้นใน 7-11 มีตั้งแต่ขวดละ 100 กว่าบาทไปจนถึงหลัก 1,000 บาท
2.วอดก้า แอลกอฮอล์กี่เปอร์เซ็นต์ วอดก้า กี่ดีกรี ?
- วอดก้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 35% – 70 %
3.วอดก้า ยี่ห้อไหนดี
- วอดก้าที่เป็นที่นิยมดื่มในปัจจุบันก็จะมี วอดก้า Gilbey , วอดก้า absolut , สเมอร์นอฟ วอดก้า , วอดก้า kulov และ วอดก้าไทย อีกหลายตัว
ขอบคุณบทความเพิ่มเติมจาก
https://www.gourmetandcuisine.com/cooking_scoop/detail/164
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : โซจู , เหล้าบ๊วย
Credit : https://drunksinlove.com/