สาเก เหล้าญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน

สาเก (Sake) เหล้าที่อยู่มาคู่กับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน

สาเก (Sake) เป็นเครื่องดื่มที่มีรากฐานอยู่ในประเทศญี่ปุ่นและเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมาเป็นพันปีแล้ว ในภาษาญี่ปุ่น “เสกิ” หรือ “ซาเก” (Sake) หมายถึง เหล้าสาเก และเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และประเพณีทางศาสนาในประเทศนี้ ในบางครั้งเรียกว่า “นิ้วเมาของเทวทูต” ด้วยความสำคัญทางทางศาสนาของมัน และมีการใช้งานในพิธีศาสนาและเฉพาะพระสงฆ์ที่ทำการทานเหล้าสาเกในพิธีกรรมต่าง ๆ อย่างจำกัด ทำให้เหล้าสาเกกลายเป็น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่น

เหล้าสาเก ได้รับความนิยมทั่วโลกและเริ่มมีการนำเสนอในร้านอาหารและบาร์ในหลายส่วนของโลก การจับคู่เหล้าสาเกกับอาหารญี่ปุ่นและอาหารสากลก็เป็นที่นิยมอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการใช้เหล้าสาเกในการทำค็อกเทลล์และเครื่องดื่มผสมอื่น ๆ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และกลายเป็นที่นิยมในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา

การทำเหล้าสาเกยังคงเป็นศิลปะและวิชาที่ซับซ้อน และมีการตั้งค่าโรงงานเหล้าสาเกที่เฉพาะเจาะจงในการผลิต สาเกญี่ปุ่น การสรรหาข้าว การเพาะเชื้อราที่เหมาะสม และกระบวนการหมั่นเพาะที่ควบคุมอย่างเข้มงวด เป็นสิ่งสำคัญในการผลิตเหล้าสาเกที่มีคุณภาพสูง

ในสมัยปัจจุบัน เหล้าสาเก คือ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นและการเลือกชิมเหล้าสาเกเริ่มกลายเป็นกิจวิสาหกิจที่มีกำไรสูงในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเหล้าสาเกชนิดสุดท้ายที่มีรสชาติละเอียดและความสมดุลที่ดี หรือเหล้าสาเกกลมกล่อมที่นำมาใช้ในการทำค็อกเทลล์หรือเครื่องดื่มผสมอื่น ๆ เหล้าสาเกยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเพลิดเพลินได้ในโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเฉลิมพระเกิด งานแต่งงาน หรือการพบปะกับเพื่อน ๆ ในหลายๆ ที่ นับว่าเหล้าสาเกยังมีหน้าที่สร้างความสุขและสังคมในวัฒนธรรมญี่ปุ่นและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

ประวัติของเหล้าสาเก

ประวัติเหล้าสาเก เริ่มต้นขึ้นในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสตกาล โดยการทำเหล้าสาเกในช่วงนี้ส่วนใหญ่ใช้ส่วนผสมหลักคือ ข้าว น้ำ และ ยีสต์ (yeast) ในกระบวนการหมั่นเพาะเยียสต์ ซึ่งทำให้ข้าวแปรรูปเป็นเหล้า โดยความชำนาญในการทำเหล้าสาเกได้รับการพัฒนาต่อมา เพื่อให้มีรสชาติและความหอมหวานที่ดีขึ้น และบรรจุในเหยือกซาเกที่สร้างมาเพื่อคงความสดของเหล้า

ประเภทของสาเก

สาเกแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ตามวิธีการผลิต ปริมาณแอลกอฮอล์ และรสชาติ ดังนี้

• สาเกชนิดเหลว (Junmai) เป็นสาเกที่ผลิตจากข้าวขัดเพียงอย่างเดียว ไม่มีส่วนผสมของข้าวเจ้าหรือน้ำตาล
• สาเกชนิดผสม (Honjozo) เป็นสาเกที่ผสมข้าวเจ้าหรือน้ำตาลเล็กน้อยลงในข้าวขัด
• สาเกชนิดหวาน (Daiginjo) เป็นสาเกที่ผลิตจากข้าวขัดมากเป็นพิเศษ มีรสชาติหวานและเข้มข้น
• สาเกชนิดแห้ง (Ginjo) เป็นสาเกที่ผลิตจากข้าวขัดมาก มีรสชาติแห้งและเข้มข้น

ประโยชน์ของสาเก

สาเกทำอะไรได้บ้าง เหล้าสาเกนั้นมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น ช่วยย่อยอาหาร บำรุงสุขภาพหัวใจ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนี้

• ช่วยย่อยอาหาร สาเกมีเอนไซม์ที่จะช่วยย่อยอาหารและช่วยดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
• บำรุงสุขภาพหัวใจ สาเกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันไม่ให้คอเลสเตอรอลเกาะผนังหลอดเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สาเกมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

อย่างไรก็ตาม การดื่มสาเกมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น ทำให้เกิดอาการเมาค้าง ส่งผลเสียต่อตับ และอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิดได้

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://blog.japanwondertravel.com/

การนำสาเกไปทำอาหาร ความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์

การนำ สาเก ทำอาหาร ไปใช้ในการทำอาหารไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ แต่มีความนิยมและความคิดสร้างสรรค์ในการใช้เหล่าน้ำสาเกในสูตรอาหารมากขึ้นในปัจจุบัน สาเกมีรสชาติหอมหวานและสีที่สวยงาม ทำให้เหมาะสำหรับการนำมาใช้ในการทำอาหารในหลายรูปแบบ นี่คือบทความเกี่ยวกับการนำสาเกไปทำอาหารและความหลากหลายของการใช้สาเกในอาหารต่าง ๆ

1. การนำสาเกไปทำซอสและเหล้าปรุงรส สาเกสามารถนำมาใช้ในการทำซอสและเหล้าปรุงรสในอาหารได้เป็นอย่างดี ตัวเหล้าสาเกมีรสชาติหอมหวานและเปรี้ยวเบา ทำให้มันเป็นส่วนที่ดีในการเพิ่มรสชาติในซอสต่าง ๆ เช่น ซอสเทอริยากิ (Teriyaki sauce) หรือเพิ่มความหอมในเนื้อที่ย่าง ทำให้เป็นเมนูที่อร่อยและน่าลิ้มลอง

2. การใช้สาเกในการปรุงอาหารทะเล สาเกยังมีบทบาทในการปรุงอาหารทะเล โดยเฉพาะในการทำซูชิและซาชิมิ สาเกมีบทบาทสำคัญในการทำข้าวสำหรับซูชิ (Sushi) ซึ่งเป็นข้าวที่ใช้ในซูชิ รสชาติของสาเกช่วยเพิ่มความเปรี้ยวของข้าวและช่วยสร้างรสชาติที่เข้มข้นสำหรับเนื้อปลาหรือซาชิมิอื่น ๆ

3. การนำสาเกไปทำเบเกอรี่และขนมหวาน สาเกยังมีบทบาทในการทำเบเกอรี่และขนมหวาน รสชาติหอมของสาเกมีความเหมาะสมกับการใช้ในการทำเบเกอรี่ และมีการใช้สาเกในการทำเบเกอรี่สายพาน และเค้ก ซึ่งมีรสชาติและกลิ่นหอมหวานที่อร่อย

4. การนำสาเกไปทำเมนูพิเศษ สาเกยังถูกนำมาใช้ในเมนูพิเศษในร้านอาหารหรูหรา สาเกแช่เย็น (Sake Sashimi) เป็นต้น โดยการนำสาเกมาช่วยเพิ่มรสชาติและประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการนำสาเกมาใช้ในการเสิร์ฟเมนูเด่นที่ใช้เหล้าสาเกเป็นส่วนผสมหลัก เช่น ซูชิรสชาติเข้ม หรือเนื้อสากิ (Sukiyaki) ที่ทำจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัวและใช้สาเกในน้ำซุป

5. การนำสาเกไปทำเครื่องดื่มผสม นอกจากการนำสาเกไปใช้ในอาหาร เหล้าสาเกยังมีบทบาทในการทำเครื่องดื่มผสม อาจเป็นการทำค็อกเทลล์ด้วยสาเก หรือการใช้สาเกในการผสมเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อสร้างรสชาติและกลิ่นหอมที่น่าติดใจ

ในสิ่งที่ทำให้เหล้าน้ำสาเกมีความหลากหลาย ความคิดสร้างสรรค์ในการใช้สาเกในอาหารก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก การสร้างความหลากหลายในเมนูและการใช้สาเกในอาหารเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นำเสนอความหลากหลายและความหรูหราในโลกของอาหารและเครื่องดื่มญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักอาหารผู้รักการทำอาหารหรือคนที่ต้องการสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น การใช้สาเกในอาหารเป็นวิธีที่น่าสนใจในการสร้างประสบการณ์ทานอาหารที่พิเศษและคิดสร้างสรรค์ที่น่าจดจำและอร่อยยิ่งขึ้นได้

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : เหล้าบ๊วย , เหล้าจิน

Credit : https://drunksinlove.com/